รู้ทัน! โรคร้ายที่มากับหน้าฝน
1. RSV หรือชื่อทางการแพทย์คือ Respiratory Syncytial Virus
ดูเผินๆ ก็เหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่เราไม่สามารถปล่อยให้หายเองได้เหมือนไข้หวัด เพราะปอดและหลอดลมจะติดเชื้อ ร้ายสุดคือ ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลงได้
สาเหตุการเกิดโรค : RSV เป็นเชื้อไวรัส สามารถติดต่อได้ทางการสัมผัส สารคัดหลั่งต่างๆ หรือแม้แต่การจาม ก็ทำให้ติดเชื้อได้แล้ว
อาการของโรค : เริ่มแรกคล้ายไข้หวัดธรรมดา มีน้ำมูก ไอหรือไออย่างหนักจนอาเจียน จาม มีไข้ แต่ไข้อาจจะสูงถึง 39-40 ได้เลยทีเดียวหากปล่อยไว้นาน หายใจลำบากและมีเสียงวี๊ด ปาดซีดเขียวในบางราย
การรักษาและป้องกัน : การป้องกันการติดเชื้อ RSV คือ การล้างมือให้เด็กเล็กบ่อย ๆ และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเด็กก็ต้องล้างมือบ่อย ๆ เช่นกัน ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง แต่สามารถรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ ลดน้ำมูก พ่นยาขยายหลอดลม ซึ่งใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
2. ไข้เลือดออก
เมื่อฝนตกหนัก ย่อมเกิดน้ำท่วมขังกลายเป็นเพาะพันธุ์ของเหล่ายุงตัวร้ายและโรคที่มากับยุง เช่น ไข้เลือดออกเป็นต้น
สาเหตุการเกิดโรค : การที่แหล่งน้ำใกล้ตัวท่วมขังและมีการแพร่พันธุ์ของยุง หรือลูกน้อยของเราได้รับเชื้อจากการยุงลาย
อาการของโรค : อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว บางรายมีไข้สูงเฉียบพลัน ไอ จาม มีน้ำมูก เลือดออกตามผิวหนัง หรือตามไรฟัน เลือดกำเดา เป็นต้น
การรักษาและป้องกัน : ไม่ปล่อยให้น้ำท่วมขังเพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หากลูกน้อยได้รับเชื้อแล้วควรพาไปพบแพทย์ แม้จะยังไม่มียารักษาโรคนี้โดยตรง แต่เราสามารถรักษาตามอาการและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดก็สามารถหายจากโรคไข้เลือดออกได้
3. มือเท้าปาก
โรคนี้มาจากกลุ่มเอนเทอโรไวรัส ผู้ป่วยที่พบมักอยู่ในวัยอนุบาล โดยเชื้อใช้ระยะเวลา 3 - 7 วัน
สาเหตุการเกิดโรค : เชื้อไวรัสสามารถติดได้ทางสารคัดหลั่งเช่น ละอองน้ำลายจากการไอ จาม น้ำมูก และสัมผัสแผล หรือ การดื่ม กิน อาหาร เครื่องดื่ม ที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่
อาการของโรค : มีไข้ น้ำมูก อาการคล้ายหวัด แต่จะมีแผลที่ปาก เบื่ออาหาร และเมื่อทิ้งเชื้อไว้ 3-7 วัน จะเริ่มมีผื่น ตุ่มแดง ตามมือ ขา และเท้า
การรักษาและป้องกัน : โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน สิ่งที่เราสามารถป้องกันลูกน้อยจากโรคนี้คือ การให้เด็กรู้จักการล้างมืออย่างถูกวิธี ทำความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจติดมาจากการสัมผัสได้ หรือหากได้รับเชื้อแล้ว ต้องนำไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อเฝ้าระวังและรักษาตามอาการต่อไป
4. ไข้หวัดใหญ่
ความจริงแล้ว ไข้หวัดใหญ่นั้นไม่ได้มีเฉพาะในหน้าฝนเท่านั้น โรคนี้ใครๆ ก็เป็นได้ หากร่างกายอ่อนแอ หรือ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซ้ำแล้วไข้หวัดใหญ่วิวัฒนาการตัวเองเป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกมาได้เรื่อยๆ อีกด้วย
สาเหตุการเกิดโรค : ไข้หวัดใหญ่ หรือ Influenza สามารถเข้าสู่ร่างกายของเราด้วยการดื่ม หรือ กินอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสนี้ นอกจากนี้ การรับเชื้อจากละอองน้ำมูก การสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน
อาการของโรค : อาการของไข้หวัดใหญ่นั้น ช่วงแรกจะคล้ายกับโรคไข้หวัดธรรมดา แต่จะมีไข้สูงกว่า บางรายที่ไข้สูงเฉียบพลัน อาจจะทำให้ช็อค และ เสียชีวิตได้เลยทีเดียว
การรักษาและป้องกัน : ล้างมือบ่อยๆ ระมัดระวังการสัมผัสสิ่งๆ ต่างที่อาจนำเชื้อเข้าร่างกายได้ หากได้รับเชื้อแล้ว ควรเฝ้าระวังไข้ที่สูงผิดปกติ และควรบุตรหลานพบแพทย์โดยด่วน เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคอื่นๆ ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.paolohospital.com/