ลงทะเบียนเข้างาน
Mobile number
e-mail
บทความ
แบ่งปัน
ป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นภาวะซึมเศร้าหลังคลอด สำหรับคุณแม่ๆ

ป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นภาวะซึมเศร้าหลังคลอด


 

ข้อมูลจากกระทวงสาธารณสุขระบุว่า กว่า 85% ที่เกิดภาวะซึมเศร้าในสัปดาห์แรกหลังคลอด จะหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนบางรายที่มีอาการรุนแรงจนกลายเป็นโรคซึมเศร้ามีประมาณ 5% จะเกิดพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ กังวลและโศกเศร้าเกินเหตุ อาจถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ อาการจะแสดงหลังคลอด 2 – 4 สัปดาห์

อาการภาวะซึมเศร้าหลังคลอดมักพบได้ มีดังนี้

- รู้สึกเศร้า เสียใจ หมดหวัง

- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด โกรธง่าย หรืออยู่ไม่สุข

- วิตกกังวลมากผิดปกติ

- มีปัญหาในการนอนหลับ เช่น นอนหลับมากผิดปกติ นอนไม่หลับ เป็นต้น

- ร้องไห้มากกว่าปกติ หรือร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล

- มีปัญหาเรื่องสมาธิ การจดจำรายละเอียด หรือการตัดสินใจ

- หมดความสนใจในสิ่งที่ชอบหรืองานอดิเรก

- รับประทานอาหารน้อยลง หรือรับประทานมากขึ้นอย่างผิดปกติ

- มีปัญหาสุขภาพโดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน เช่น ปวดศีรษะบ่อย ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น

- เก็บตัว หรือหลีกเลี่ยงการพบเจอเพื่อนและคนในครอบครัว

- มีปัญหาในการสร้างความผูกพันระหว่างแม่ลูก

- กังวลไปว่าตนเองไม่มีความสามารถในการดูแลลูกอยู่บ่อย ๆ


สาเหตุของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
- ส่วนใหญ่เป็นปัจจัยที่คุณแม่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สภาพแวดล้อม เป็นต้น
- มีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ ระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอดมาก่อนหน้านี้

- สมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรือมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์

- มีปัญหาที่ส่งผลให้เกิดความเครียดมาก เช่น ภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์ หรือมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งภายในครอบครัว เป็นต้น

- ทารกมีปัญหาสุขภาพที่ต้องมีการดูแลหรือรับการรักษาอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ

- แม่มีปัญหาในการให้นมบุตร

- ครอบครัวมีปัญหาทางการเงิน

- ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม


การรักษาภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

- ควรบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดอย่างตรงไปตรงมาและซื่อตรงกับตัวเอง

- ขณะที่ทำการรักษาผู้ป่วยควรดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย เช่น ออกกำลังกาย หรือเข้าร่วมกลุ่มให้คำปรึกษา เป็นต้น

- จิตบำบัด เป็นการรักษาด้วยการพูดคุยกับจิตแพทย์ เพื่อระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากภาวะดังกล่าว โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำในการรับมือกับปัญหาและให้กำลังใจผู้ป่วย

- ยาต้านเศร้า เป็นยาที่ใช้ในการรักษาภาวะซึมเศร้า โดยผู้ป่วยและแพทย์จะต้องปรึกษากันถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจได้รับจากการรักษาด้วยยาต้านเศร้าแต่ละชนิดด้วย


**** 
สำหรับการเลือกวิธีการรักษา แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและพิจารณาว่าการรักษาใดเหมาะสมและปลอดภัยต่อผู้ป่วยมากที่สุด

 

การป้องกันภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
- เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการเป็นแม่

ดูแลตัวเองให้แข็งแรง สมบูรณ์

- วางแผนการตั้งครรภ์ร่วมกับคุณพ่อ

หากการวางแผนเป็นไปอย่างราบรื่นจะช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องวิตกกังวลมากเกินไป

- ระหว่างตั้งครรภ์ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด

เพื่อให้การตั้งครรภ์นั้นดำเนินไปอย่างเป็นปกติ คุณแม่จะได้หมดห่วงและไม่ต้องมาวิตกกังวลกับเรื่องในระหว่างการตั้งครรภ์และหลังการคลอดมากนัก

- ขอให้คุณพ่อช่วยดูแลลูก

ก่อนการคลอดคุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาหารือกันถึงการดำเนินชีวิตภายหลังจากที่ลูกน้อยได้คลอดออกมาแล้ว โดยคุยกันและตกลงกันไว้ก่อนว่าใครจะต้องทำอะไรบ้าง ทำอย่างไร

- หาคนช่วยเหลือและหากำลังใจ

คุณแม่อาจให้บุคคลในครอบครัว คุณพ่อ เพื่อน ๆ หรือผู้ให้บริการดูแลเด็กอื่น ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลลูกน้อย หรือให้ผู้อื่นเข้ามาช่วยดูแลลูกคนอื่น ๆ ทำงานบ้าน คอยเตรียมอาหาร ฯลฯ หรือหาที่พึ่งทางใจ เช่น การโทรหาเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวเพื่อขอกำลังใจ

- กินอาหารที่มีประโยชน์

ผักและผลไม้สด รวมทั้งน้ำผลไม้คั้นสดนั้นเป็นแหล่งของวิตามินที่ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นและช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ออกกำลังกายเบาๆ

คุณแม่ควรปลีกเวลาออกไปเดินเล่นกับลูกหรือออกกำลังกายเบา ๆ นอกบ้านในสวนอันร่มรื่นบ้าง

- พักผ่อนให้เพียงพอ

ในช่วงกลางวันคุณแม่ควรพยายามงีบหลับบ้างและหาคนช่วยดูแลลูกในตอนกลางคืน เพื่อที่จะได้มีเวลาพักผ่อนให้มากขึ้น


 

เรียบเรียงจาก https://medthai.com และ https://www.pobpad.com

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
5 สิ่งที่่พ่อแม่อาจเผลอ Bully ลูก
5 สิ่งที่่พ่อแม่อาจเผลอ Bully ลูก
4 โมเมนต์พิเศษที่คุณแม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อบ้าง
4 โมเมนต์พิเศษที่คุณแม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อบ้าง