"สระว่ายน้ำแบบเป่าลม" เพิ่มเสี่ยงเด็กจมน้ำในบ้าน ในอดีต การจมน้ำเสียชีวิตของเด็ก ๆ อาจมาจากการกระโดดน้ำตูม ๆ ตามแม่น้ำลำคลอง หรือดำน้ำลอดท้องเรือขนาดใหญ่แล้วเกิดหลงทาง แทนที่จะดำน้ำตามขวาง กลับดำน้ำตามยาว โผล่มาอีกทีก็กลายเป็นเรื่องเศร้าให้พ่อแม่ญาติพี่น้องใจแทบขาด แต่มาเดี๋ยวนี้ ภัยจากน้ำอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น และหนึ่งในทูตมรณะก็คือ "สระว่ายน้ำแบบเป่าลม" ที่ทั้งราคาถูก และหาซื้อได้ง่ายนั่นเอง
ปัจจุบันเชื่อว่ามีหลายครอบครัวนิยมซื้อสระน้ำเป่าลมเล็ก ๆ สำหรับเด็กมาเล่นกันในบ้านมากขึ้น โดยมองว่าเป็นกิจกรรมยามว่างชั้นดี ลูก ๆ ได้เล่นน้ำ พ่อแม่ก็ได้นั่งพัก ดูลูก ๆ เล่นน้ำกันสนุกสนาน แต่ก็พบว่าโอกาสที่เด็กจะจมน้ำเสียชีวิตเพราะอุปกรณ์ดังกล่าวก็มากขึ้นตามไปด้วย
โดยในสหรัฐอเมริกา มีสถิติการเสียชีวิตของเด็กจากการใช้สระว่ายน้ำเป่าลมแล้วถึง 209 ราย ส่วนมากเป็นเด็กเล็ก อายุไม่เกิน 5 ปี และส่วนมากเกิดกับเด็กที่บ้านมีพื้นที่กว้างขวาง หรือมีสนามหญ้าหลังบ้าน
ทั้งนี้ ดร. Linda Quan ผู้เชี่ยวชาญด้านการจมน้ำจากโรงพยาบาลเด็กในซีแอตเติลกล่าวว่า พ่อแม่ควรระมัดระวังการใช้สระเหล่านี้ เพราะมีความเสี่ยงที่เด็กจะจมน้ำเสียชีวิตเช่นกัน โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
"เด็กที่จมน้ำเสียชีวิตในสระว่ายน้ำแบบเป่าลมโดยที่มีพ่อแม่อยู่ด้วยนั้น ส่วนมากมักเกิดจากการที่พ่อแม่ใช้เวลาที่ลูกเล่นน้ำไปกับการพักผ่อนหย่อนใจส่วนตัว บ้างก็กำลังดื่มเครื่องดื่ม เมาท์กับเพื่อน ทำสวน หรือคุยโทรศัพท์"
"แต่การดูแลเด็กเล่นน้ำต้องจดจ่ออยู่กับมัน โดยเฉพาะในเด็กเล็ก และผู้ใหญ่ต้องอยู่ในระยะที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น ยังควรเพิ่มมาตรการความปลอดภัยเช่น หาเสื้อชูชีพให้ลูกใส่ร่วมด้วย"
นอกจากนั้น ยังมีผลการสำรวจที่น่าสนใจ เมื่อพบว่า เด็ก ๆ พยายามจะหาทางลงไปเล่นในสระว่ายน้ำกันเอง ด้วยการปีนบันได หรือไต่ไปตามวัตถุที่อยู่ใกล้ ๆ สระ เช่น ต้นไม้ ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ในบริเวณสระว่ายน้ำตลอดเวลา ก็ต้องหาทางที่ทำให้มั่นใจว่า เด็ก ๆ ไม่สามารถเข้าไปเล่นสระน้ำได้เช่นกัน หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ "ปล่อยน้ำทิ้งไป" หรือพ่อแม่อาจนำเอารั้วมากั้นรอบสระ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กใช้บันได หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ไต่ลงไปเล่นในสระ
"สองในสามของเด็กที่จมน้ำมาจากการพยายามเข้าไปเล่นในสระโดยใช้บันได การป้องกันไม่ให้เด็กใช้บันไดได้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวลง" ดร. Quan กล่าว
นอกจากนี้ ทางผู้เชี่ยวชาญยังได้ฝากทิ้งท้ายมาด้วยว่า หากลูกตกจากของเล่นในสนามเด็กเล่น คุณยังอาจรักษาตัวพวกเขาให้หายแล้วกลับไปเล่นใหม่ แต่การจมน้ำไม่ใช่ ทันทีที่หัวใจเด็กหยุดเต้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ยากนักที่จะปลุกให้กลับฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ได้
หันมาระวังภัยให้คนที่คุณรักกันเถอะค่ะ
เรียบเรียงจากรอยเตอร์
ขอบคุณภาพประกอบจาก
www.healthlifestylez.com
ข้อมูลจาก :
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000075306