รู้จักโรคปอดบวมในเด็กเล็กหรือยัง? สิ่งที่พ่อแม่เป็นห่วงในช่วงหน้าหนาวคือสุขภาพของลูกน้อย ซึ่งโรคปอดบวมก็เป็นโรคหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นกับลูกของท่าน จึงนำข้อมูลเรื่องสุขภาพของลูกน้อย ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก รู้ทันและป้องกันการเจ็บป่วยมาบอก
โรคปอดบวม คือ อาการอักเสบ ที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อปอด หลอดลม ถุงลมต่างๆ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็กที่สำคัญ ข้อมูลการสำรวจขององค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ ปี 2549 พบว่าโรคปอดบวม เป็นโรคที่ทำให้เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเสียชีวิตในปีหนึ่งๆ มีจำนวนมากกว่า 2,000,000 คน/ปี Mother & Care จึงนำข้อมูลเรื่องสุขภาพของลูกน้อย ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก รู้ทันและป้องกันการเจ็บป่วยมาบอก
รู้จักอาการ
อาการเบื้องต้นมักเริ่มจากการมีน้ำมูกหรือมีไข้ ตัวร้อน คล้ายการเป็นไข้หวัดในเด็กเล็กทั่วไป แต่มีข้อสังเกตที่ต้องระวังกับอาการผิดปกติต่อไปนี้
-ไข้สูง ไอ หายใจเหนื่อย
-ไอมาก ลักษณะไอแห้งๆ หรือไอแบบมีเสมหะ
-ได้ยินเสียงหายใจครืดคราด เนื่องจากมีเสมหะมากและเหนียว
-ลูกหายใจเร็วกว่าปกติ (เด็กปกติจะมีอัตราการหายใจประมาณ 20-40 ครั้งต่อนาที)
-มีอาการหอบเหนื่อย เวลาหายใจจมูกจะบาน ช่วงหน้าอกและท้องจะบุ๋ม
-กินอาหารไม่เป็นปกติ มีอาการซึม
หากพบว่าลูกน้อยมีอาการผิดปกติดังกล่าว คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบพาลูกไปหาคุณหมอโดยเร็ว เพื่อเข้ารับการรักษาให้ทันท่วงที
ความรุนแรงของโรคปอดบวม
เกิดได้จากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นเชื้อที่ร่างกายสามารถกำจัดออกได้ แต่หากเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดที่รุนแรง อาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวหรือเสียชีวิตได้ ซึ่งพบว่า เชื้อนิวโมคอคคัสเป็นชื่อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุใหญ่ ทำให้เกิดโรคปอดบวมและโรคติดเชื้อรุนแรง เช่นการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เกิดหูน้ำหนวก ไซนัสอักเสบ หากลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด เยื่อหุ้มสมอง ก็ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นกลุ่มโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดรุนแรงหรือที่เรียกว่า “ไอพีดี”
การวินิจฉัยโรค
ในเบื้องต้นจำเป็นต้องอาศัยประวัติ ข้อมูลอาการต่างๆ ของลูกน้อยจากคุณพ่อคุณแม่ ร่วมกับการตรวจร่างกายเพื่อวินิจฉัยโรค ในรายที่เป็นไม่มากการใช้เครื่องมือฟังปอดอาจจะยังไม่ชัดเจน ต้องใช้วิธีเอกซเรย์ปอดช่วยวินิจฉัยด้วย ทั้งนี้ จะทำเฉพาะในรายที่คุณหมอเห็นสมควร และจำเป็นเท่านั้นค่ะ
การรักษา
-อาการไม่มาก สังเกตเสียงผิดปกติของปอดได้ ก็อาจใช้แค่ให้ยากินอย่างเดียว ไม่ต้องฉีดยา คุณหมออาจจะนัดฟังปอดอีกครั้ง
-หากสามารถเล่นและกินอาหารได้ดี แต่หายใจเร็วเล็กน้อย อาจฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อและรอดูอาการ และนัดฟังปอด เมื่ออาการดีขึ้นก็จะเปลี่ยนเป็นยากินแทน
-กรณีที่มีอาการเป็นมาก ไข้ไม่ลด ซึมลง จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพราะต้องให้ออกซิเจน และความชื้น ให้น้ำอย่างเพียงพอ และให้ยาทางหลอดเลือดดำ และอาจต้องเคาะปอดและดูดเอาเสมหะออก
การดูแลและป้องกันโรคปอดบวม
สิ่งสำคัญในการดูแลลูกน้อยที่ป่วยเป็นโรคปอดบวม คือการปฏิบัติตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกลับมาอีกครั้ง ทั้งนี้ โรคปอดบวมสามารถป้องกันได้ในเบื้องต้นโดย
-สร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ โดยให้ลูกกินนมแม่
-เมื่อไม่สบายเป็นไข้ ควรเช็ดตัว และให้ลูกดื่มน้ำให้มาก และให้ยาตามอาการ
-ดูแลเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด ความอบอุ่น
-หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ช้อน แก้วน้ำ ของเล่น
-การรับวัคซีนป้องกันโรค เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ทั้งนี้ควรปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากคุณหมอก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mother & Care
ข้อมูลจาก :
http://www.vcharkarn.com