ผลข้างเคียง "วัคซีน" เกิดขึ้นได้ถ้าไม่สังเกตุ อาการบวม แดง เป็นไตแข็ง หรือเป็นไข้ มักพบได้เสมอหลังจากที่พาเจ้าตัวเล็กไปรับวัคซีน แต่เรื่องแค่นี้ก็ทำเอาพ่อแม่อย่างเรา ๆ ถึงกับกังวลใจไม่น้อยแล้วค่ะ อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้าตัวเล็กหลังจากได้รับวัคซีนนั้นจะแตกต่างกันไปตามชนิดของวัคซีนซึ่งจะส่งผลให้การดูแลแตกต่างกันไปด้วยค่ะ โดยปฏิกิริยาและผลข้างเคียงของวัคซีนแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่
1. ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเฉพาะที่
พบได้บ่อยที่สุดแต่อาการรุนแรงน้อยที่สุดมักพบในวัคซีนชนิดไม่มีชีวิต เช่น วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก อาการที่พบได้ค่อนข้างมากคือ ปวด บวม แดง แต่จะเกิดเฉพาะบริเวณที่ฉีดวัคซีน เช่น ฉีดที่ต้นขาข้างซ้ายปฏิกิริยาก็จะเกิดเฉพาะที่ต้นขาข้างซ้าย เป็นต้น
อาการที่หนูเป็น คือ ปวด บวม แดง ตรงจุดที่ฉีดมักเกิดขึ้นภายใน 3 ซม. หลังจากฉีดวัคซีนความรุนแรงของอาการค่อนข้างน้อย
ช่วยหนูได้โดย หลังจากฉีดวัคซีนชนิดนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะไม่ต้องนวดหรือคลึงเพราะจะทำให้ลูกเจ็บมากขึ้น อาการปวด บวม แดงจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน แต่ถ้าลูกปวดมากหรือมีอาการบวมมากอาจประคบด้วยน้ำแข็งได้
ระวัง! หากจุดที่บวม แดง หรือเป็นไต เกิดเป็นแผลหรือติดเชื้อจนเป็นหนอง หรือถ้าสังเกตว่าเด็กไม่ขยับแขนขาข้างที่ฉีดวัคซีนหรือขยับได้น้อยลงคุณพ่อคุณแม่ควรพาไปพบคุณหมอค่ะ
2. ปฏิกิริยาทั่วไป
มักจะเกิดกับวัคซีนที่มีชีวิต คือ วัคซีนที่ยังมีชีวิตแต่เชื้อถูกทำลายให้มีความรุนแรงน้อยลง เช่น วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม สุกใส ปฏิกิริยาที่เกิดจะมากกว่าวัคซีนชนิดที่ไม่มีชีวิต คือ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วเชื้อโรคอ่อน ๆ จะยังมีการแบ่งตัวภายในร่างกายทำให้ร่างกายมีการตอบสนองต่อเชื้อนั้น
อาการที่หนูเป็น จะมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร ส่วนใหญ่มักเกิด 1-2 สัปดาห์หลังรับวัคซีน
ช่วยหนูได้ ให้ลูกกินยาลดไข้ตามที่คุณหมอจัดมาหมั่นเช็ดตัวและให้ลูกพักผ่อนมาก ๆ อาการพวกนี้จะดีขึ้นเองค่ะ
ระวัง! อย่าปล่อยให้ลูกมีไข้สูงเพราะอาจทำให้ลูกชักได้
3. ปฏิกิริยาการแพ้วัคซีน
อาจเกิดจากการแพ้ตัววัคซีน หรือแพ้ส่วนประกอบในตัววัคซีนก็ได้ซึ่งพบได้น้อยประมาณ 1 : 500,000 แต่ความรุนแรงอาจมากจนถึงชั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ค่ะ
อาการที่หนูเป็น ถ้าแพ้แบบรุนแรงจะเกิดอาการเร็วมากหลังรับวัคซีนภายในไม่กี่นาทีหรืออาจเป็นชั่วโมงก็ได้ อาการที่พบส่วนใหญ่ คือ มีผื่นลมพิษขึ้นหรืออาจบวมรอบตา รอบคอ มีอาการเหมือนหายใจไม่ออก หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวี้ด และอาจรุนแรงถึงขั้นความดันโลหิตต่ำและช็อกไปเลยได้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นก็ควรรีบพาไปหาคุณหมอนะคะ
ระวัง! หากลูกมีประวัติการแพ้ไข้จะรับวัคซีนที่สำคัญตัวหนึ่งไม่ได้ คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่เนื่องจากมีองค์ประกอบของไข้อยู่
พาลูกไปรับวัคซีนครั้งต่อไป คงไม่ทำให้กังวลใจอีกแล้วใช่ไหมคะ เพราะเมื่อรู้สาเหตุ หมั่นสังเกตอาการ บริบาลถูกวิธี และหากอาการไม่ดีขึ้นก็รีบพาไปหาคุณหมอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลูกน้อยห่างไกลจากอาการข้างเคียงต่างๆ และยังได้รับภูมิคุ้มกันที่ดีจากวัคซีนอีกด้วยค่ะ
วัคซีนชนิดไม่มีชีวิต
หลังรับวัคซีนวัณโรคที่ต้นแขนซ้าย (วัคซีนวัณโรคเป็นวัคซีนที่มีชีวิต) ซึ่งคุณหมอจะฉีดให้หลังคลอดอาจพบว่ามีผลข้างเคียงจากวัคซีนได้ ร้อยละ 1-2 โดยจะพบเป็นฝีหนองต่อมน้ำเหลืองโตเฉพาะที่และตำแหน่งที่ฉีดเป็นตุ่มนูนแตกเป็นแผลขึ้นอยู่กับว่าภูมิต้านทานของเด็กเป็นอย่างไรค่ะ
เด็กปกติที่มีภูมิต้านทานดีอาการพวกนี้จะไม่มากและไม่รุนแรงแต่ถ้ามีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น มีการติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ซึ่งเด็กในกลุ่มนี้ภูมิต้านทานจะไม่ดี พอรับวัคซีนเชื้อเป็นเข้าไป (วัคซีนเชื้อเป็น คือ การนำเชื้อโรคมาเพาะทำให้ฤทธิ์อ่อนลงไม่ก่อโรคแต่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานได้) ก็จะทำให้ผลข้างเคียงเกิดมากกว่าปกติ เช่น อาจเป็นแผลใหญ่ หรือหนองไหลจากแผล เป็นต้น
อ๊ะอ๊ะ...อย่าละเลย
- อย่าลืมสมุดวัคซีน หากคุณพ่อคุณแม่ไม่นำสมุดประจำตัววัคซีนไปด้วยผลเสียจะเกิดขึ้นกับลูกค่ะทำให้ลูกมีโอกาสรับวัคซีนไม่ครบได้ค่ะ เพราะบางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจไม่ได้พาลูกไปรับวัคซีนที่โรงพยาบาลเดิมตลอด
- รู้ข้อมูล คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ว่าวัคซีนที่กำลังจะฉีดให้ลูกในแต่ละครั้งเป็นวัคซีนอะไรมีผลข้างเคียงอย่างไร หากคุณหมอไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะตามรายละเอียดด้วยนะคะ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และเฝ้าระวังอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับลูก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
momypedia
ข้อมูลจาก :
http://www.nong3narak.com