ลงทะเบียนเข้างาน
Mobile number
e-mail
บทความ
แบ่งปัน
เจ็บคอ ไอ ท้องเสีย ท้องผูก เบบี๋ใครป่วย ต้องปรับเมนูอาหารด่วน!...
เจ็บคอ ไอ ท้องเสีย ท้องผูก เบบี๋ใครป่วย ต้องปรับเมนูอาหารด่วน!... หนึ่งในเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้บรรดาคุณแม่แทบทุกคนก็คือการที่ลูกน้อยป่วยไข้ไม่สบาย... เพราะลูกตัวน้อยยังพูดจาสื่อสารกับเราไม่ได้ แล้วเจ็บป่วยแต่ละทีอะไรก็ไม่อร่อย ไม่เจริญอาหาร และที่ห่วงกันสุดๆคือไม่ค่อยยอมกินอะไรเลย พานให้คนเป็นแม่เป็นห่วงและกลุ้มใจมาก จึงควรปรับเปลี่ยนอาหารให้เหมาะกับอาการป่วยของลูก

อาหาร...เติมพลังยามป่วย

ในยามที่สุขภาพลูกน้อยแข็งแรงเป็นปกติ อาหารที่กินเข้าไปแต่ละครั้งจะให้สารอาหารต่าง ๆ ไปเสริมสร้างอวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แต่พอถึงเวลาที่ลูกไม่สบาย ไม่ว่าจะเจ็บคอ ร้อนใน ไอ ท้องเสีย ท้องผูก ฯลฯ อาหารยิ่งจะเพิ่มความจำเป็นต่อร่างกายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเวลาเจ็บป่วยร่างกายของลูกจะเสียสมดุล อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงต้องการสารอาหารเข้าไปซ่อมแซมและบำรุงส่วนที่สึกหรอ เพื่อให้ร่างกายกลับมากลับแข็งแรงดังเดิม

ไม่สบาย...เบื่ออาหาร

ไม่สบายแล้วไม่กินนมกินข้าวเป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่ความเป็นจริงเวลาเจ้าตัวเล็กไม่สบายทีไร คุณแม่แทบจะต้องบังคับขืนใจให้กิน ที่เป็นเช่นนี้กูรูด้านโภชนาการอย่างป้าเกศบอกว่าเป็นเพราะเวลาเบบี๋ไม่เจ็บไม่ไข้ระบบการทำงานของอวัยวะเคี้ยวกลืน (ปาก คอ หลอดอาหาร และระบบการดูดซึมสารอาหาร) จะทำงานปกติดี แต่พอไม่สบายขึ้นมา ปาก คอ หลอดอาหาร และการดูดซึมก็ทำงานไม่ปกติ เช่น ร้อนใน เจ็บคอ หรือไอ ปาก คอ และต่อมรับรสจะทำงานได้ไม่เต็มที่ รสชาติที่เคยอร่อยก็จะออกขม ช่องปากและช่องคออักเสบบวมแดง อาหารผ่านไปแต่ละครั้งทำให้ระคายเคืองและกลืนยาก เลยพานให้ลูกไม่อยากเอาอะไรเข้าปาก 

เพราะฉะนั้นการปรับเปลี่ยนลักษณะอาหารให้แตกต่างไปจากปกติจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ลูกกินอาหารได้ง่ายขึ้น อาหารยามป่วยสำหรับลูกควรเน้นอ่อน นุ่ม ละเอียด รสชาติอ่อนลง และมีน้ำค่อนข้างมาก เพื่อให้ลูกกินง่ายขึ้น ลดการระคายเคืองของปากและคอ และดูดซึมได้เร็วกว่าปกติ

ปรับอาหารรับมืออาการป่วย

เจ็บคอ ไม่ว่าจะเกิดจากร้อนในหรือไข้หวัด เนื้อเยื่อที่คอก็จะอักเสบระคายเคืองและบวม ทำให้มีช่องทางให้อาหารผ่านได้น้อยลง 
Dos : ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีแป้งและน้ำตาลมาก เพราะคาร์โบไฮเดรตจะเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย และเลี่ยงอาหารแข็ง อาหารที่มีไขมันมาก อาหารทอดน้ำมันท่วม เพราะไขมันจะไปเคลือบอวัยวะส่วนที่ระคายคออยู่แล้ว คุณแม่ควรให้ลูกกินอาหารอุณหภูมิปกติหรือค่อนข้างเย็น เพื่อจะช่วยรักษาเนื้อเยื่อที่บวมและพองตัวให้ยุบลง 
Menu : เน้นอาหารอุณหภูมิปกติ เช่น ก๋วยเตี๋ยวน้ำไม่ใส่กระเทียมเจียว โจ๊กใส่ผักบดหรือผักปั่น ฯลฯ
Concern : ถ้าลูกไม่เจ็บคอก็ไม่ควรให้ดื่มน้ำมะนาวเข้มข้น เพราะมีวิตามินซีเข้มข้นทำให้เจ็บและระคายคอมากขึ้นได้

ไอเกิดจากการระคายเคืองของทางช่องปาก อาจจะเพราะร้อนในหรือเป็นไข้หวัดที่คุณพ่อคุณแม่เป็นคนพาเชื้อโรคมาหาลูก หรือเกิดจากภูมิแพ้ด้วยก็ได้
Do's : อาหารที่ควรเลี่ยงคือ อาหารแข็ง อาหารที่มีไขมันมาก อาหารทอดน้ำมันท่วม และอาหารที่เย็นจัดเพราะจะทำให้ระคายเคืองและไอมากขึ้น 
Menu : เน้นอาหารอุ่น ๆ เช่น ซุปต่าง ๆ หรือน้ำแกงใสที่ต้มมาจากเนื้อสัตว์ ไม่ติดมันและไม่ใช่ต้มจากกระดูก ข้าวต้มทรงเครื่องไม่ใส่กระเทียมเจียว ฯลฯ 

ท้องเสีย เกิดจากการติดเชื้อบางชนิดทำให้เจ้าตัวเล็กถ่ายบ่อยจนอาหารที่กินลงไปในแต่ละครั้งยังไม่ทันได้ดูดซึมก็ถูกขับออกไปซะก่อน
Do's : คุณแม่ต้องงดอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนหรือไม่ผ่านการปรุงสุก เช่น ผักสด ผลไม้สด น้ำผลไม้ ฯลฯ แม้แต่น้ำที่ให้ลูกดื่มก็ต้องเป็นน้ำผ่านการต้มสุกนะคะ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก อาหารแข็ง การที่ลูกท้องเสียจะสูญเสียเกลือแร่และวิตามินต่างๆ คุณแม่สามารถเสริมหรือทดแทนด้วยเกลือแร่และวิตามินจากผักต่างๆ ได้ และเพิ่มความถี่ของมื้ออาหารรวมและนมค่ะ
Menu : อาหารอ่อนนุ่ม ย่อยง่าย เช่นโจ๊กหรือข้าวต้มแต่ต้องให้มีน้ำเยอะขึ้นใสขึ้น และเพิ่มอาหารที่มีเกลือแร่อาจจะดัดแปลงให้เป็นวุ้นผลไม้ต้มสุกหรือเมนูที่มาเส้นก็ได้ 

ท้องผูก เป็นเพราะระบบการย่อยและระบบขับถ่ายของลูกที่มีกากใยน้อย หรือดื่มน้ำน้อยจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ 
Do's : อาหารที่ช่วยให้ลูกน้อยขับถ่ายได้ดีต้องมีกากใยอาหารที่ได้จากผัก ผลไม้ และต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันด้วย เพราะถ้ามีกากใยแต่ไม่มีน้ำเพียงพอ กากใยก็จะถูกหมักหมมอยู่ในลำไส้ไม่มีการขับออกมา 
Menu : คุณแม่ควรทำอาหารหรือของว่างที่มีส่วนผสมของผักผลไม้ซึ่งมีกากใยสูง เช่น แอปเปิ้ล มะละกอ เม็ดแมงลัก หรือจะเอาผักและผลไม้มาทำดิปจิ้มด้วยแครอตหรือฟักทองหั่นแท่งลวกสุก
Concern : ผลไม้บางชนิด เช่น มะขาม ลูกพรุน ฯลฯ มีฤทธิ์เป็นยาระบายคุณแม่ไม่ควรให้ลูกน้อยกินบ่อยๆ เพราะถ้าไม่ได้กินลูกอาจจะไม่ถ่ายได้

รู้ความสำคัญของอาหารและเทคนิควิธีการปรับอาหารกันมาครบถ้วนกระบวนความแล้ว หากเจ้าตัวเล็กเกิดป่วยไข้ไม่สบายคุณแม่ก็คงไม่ต้องกังวลว่าลูกจะไม่ยอมกินข้าวหรือกินได้น้อยอีกแล้วล่ะค่ะ

ลูกไม่สบายต้องปรับนมไหม
คุณแม่ต้องสังเกตด้วยว่าลูกกินนมน้อยกว่าปกติหรือไม่ ถ้าเจ้าตัวเล็กยังกินนมเท่าเดิมก็ไม่จำเป็นต้องปรับนมค่ะ แต่ถ้ากินนมได้น้อยกว่าปกติเช่นเคยกิน 6 ออนซ์ลดเหลือแค่ 4 ออนซ์ คุณแม่ก็จะต้องปรับนมโดยดูจากอาการป่วย 

หากลูกไม่ได้ท้องเสียคุณแม่ก็เพิ่มความเข้มข้นของนมโดยเพิ่มผงนมมากกว่าการชงปกติ เช่น ปกติชงนมในอัตราผงนม 6 ช้อนต่อน้ำ 8 ออนซ์ ก็เพิ่มความเข้มข้นเป็น ผงนม 6 ช้อนต่อน้ำ 6 ออนซ์ 

แต่ถ้าลูกท้องเสียคุณแม่จะปรับนมได้ 2 วิธี วิธีแรกคือลดทั้งผงนมและน้ำลงครึ่งหนึ่ง เช่น จากเดิมผงนม 6 ช้อนต่อน้ำ 8 ออนซ์ลดเหลือผงนม 3 ช้อนต่อน้ำ 4 ออนซ์ และอีกวิธีคือลดผงนมแต่น้ำเท่าเดิม เช่นผงนม 6 ออนซ์ต่อน้ำ 8 ออนซ์ ลดเหลือผงนม 4 ช้อนต่อน้ำ 8 ออนซ์ เพราะนมมีผลต่ออาการท้องเสียของลูก แต่ไม่ว่าลูกจะเจ็บป่วยด้วยสาเหตุอะไรคุณแม่ก็ไม่ควรงดนมเด็ดขาดค่ะ

ข้อมูลจาก : นิตยสาร MODERNMOM
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
5 สิ่งที่่พ่อแม่อาจเผลอ Bully ลูก
5 สิ่งที่่พ่อแม่อาจเผลอ Bully ลูก
4 โมเมนต์พิเศษที่คุณแม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อบ้าง
4 โมเมนต์พิเศษที่คุณแม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อบ้าง