โรคอ้วนในเด็ก...เรื่องไม่เล็กที่พ่อแม่ควรระวัง!
โรคอ้วนในเด็กในปัจจุบัน พบว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเด็กในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ทั้งการทานอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด หรือการเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลง แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากคุณพ่อคุณแม่มีความเข้าใจและดูแลลูกอย่างถูกวิธี
สาเหตุของโรคอ้วนในเด็ก
- ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม : เช่น มีพ่อหรือแม่เป็นโรคอ้วน หรืออาจมีโรคทางต่อมไร้ท่อต่างๆ
- ปัจจัยทางด้านบริโภค : มักเกิดจากการบริโภคที่ไม่เหมาะสม เช่น การบริโภคอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด อาหารที่มีเป็นแป้ง น้ำตาล และไขมันจำนวนมาก รวมถึงอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารแปรรูปต่างๆ ที่มีส่วนผสมของผงชูรสอยู่มาก
- ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน เช่น ออกกำลังกายน้อยลง อยู่กับหน้าจอมากขึ้น หรือไม่ค่อยได้มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ทั้งหมดนี้จึงทำให้เกิดความไม่สมดุลกันระหว่างพลังงานที่เราได้จากอาหาร กับการใช้พลังงานของร่างกาย ส่งผลให้มีการสะสมในร่างกายมากเกินไป
โรคอ้วนในเด็ก...ส่งผลต่อระบบภายในร่างกายอย่างไรบ้าง?
- ระบบทางเดินหายใจ : มีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น นอนกรน
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด : ความดันโลหิตสูง
- ระบบต่อมไร้ท่อ : เกิดภาวะต่อต้านอินซูลิน ก่อให้เกิดโรคเบาหวาน หรือกลุ่มอาการของเมแทบอลิก
- ระบบทางเดินอาหารและตับ : กรดไหลย้อน ไขมันสะสมที่ตับ หรือนิ่วในถุงน้ำดี
- ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก : อาจก่อให้เกิดภาวะขาโก่ง หรือกระดูกเปราะหักง่าย
- ระบบผิวหนัง : จะก่อให้เกิดรอยปื้นสีน้ำตาลเข้มบริเวณหลังคอ จากการที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน หรือรอยแตกลายตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย
- สภาวะจิตใจ : โดยอาจเกิดจากการโดนล้อเลียน ทำให้เด็กเกิดสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง หรือเป็นภาวะซึมเศร้าได้
วิธีการรักษาโรคอ้วนในเด็ก
การรักษาจำเป็นต้องดูจากระดับความรุนแรงของโรคอ้วนว่าอยู่ในเกณฑ์ใด เนื่องจากการรักษาในแต่ละระดับจะมีความแตกต่างกัน เช่น
1. หากเด็กมีน้ำหนักเกินไม่มากหรือเข้าข่ายเป็นโรคอ้วน อาจให้เด็กควบคุมน้ำหนักโดยการเลือกทานอาหาร
2. หากอยู่ในเกณฑ์มีน้ำหนักเกินหรือเริ่มอ้วน จะให้ความสนใจไปที่ต่อมพันธุกรรมและต่อมไร้ท่อก่อน
3. หากอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นโรคอ้วน ก็จะทำการดูที่อายุว่ามีอายุน้อยกว่า 7 ปี หรือมากกว่า 7 ปี
วิธีลดความเสี่ยงโรคอ้วนในเด็ก
- ควรให้เด็กทานนมแม่อย่างเดียว เนื่องจากสัดส่วนของสารอาหารภายในนมแม่ครบถ้วนและเหมาะสมกว่า
- หากเด็กเริ่มโต ควรให้เด็กลดการบริโภคเกี่ยวกับอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของแป้ง ไขมัน หรือน้ำตาลเยอะ
- ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักผลไม้ที่ไม่หวาน ข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ เป็นต้น
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้ง 3 มื้อ ที่สำคัญไม่ควรงดทานอาหารมื้อเช้า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารสำคัญ
- หลีกเลี่ยงการทานน้ำอัดลม หรือขนมขบเคี้ยว
- ออกกำลังกายอย่างน้อย สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง วันละ 30-60 นาที
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ไม่เคลื่อนไหว หรืออยู่กับหน้าจอนานเกินไป
- ที่สำคัญ การที่ครอบครัวสร้างวินัย หรือเป็นตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับการบริโภคอาหารหรือการออกกำลังกาย ก็จะเป็นการเสริมสร้างแบบอย่างที่ดี ที่ลูกสามารถทำตามได้โดยที่ไม่คิดว่าถูกบังคับหรือลงโทษ
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.paolohospital.com/