ลูกเป็นหวัดบ่อย ควรดูแลอย่างไร ?
เด็กสามารถเป็นหวัดได้ปีละหลายครั้ง ส่วนใหญ่มักหายได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ ดังนั้นการดูแลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรรู้และใส่ใจ เพื่อลดอาการให้เจ้าตัวเล็ก
1. ปรับอุณหภูมิห้อง
พ่อแม่ผู้ปกครองควรปรับอากาศในบ้าน ห้องที่เล่น และห้องนอนให้มีอุณหภูมิอุ่นขึ้นหรือปิดเครื่องปรับอากาศ หากเด็กร้อนให้ปรับเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม แต่หากเปิดพัดลมแนะนำให้เปิดแบบส่ายหมุน
2. ดื่มน้ำอุ่น
เด็กควรดื่มน้ำที่อุ่นเล็กน้อยหรือน้ำที่อุณหภูมิห้องปกติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยบรรเทาอาการไข้และไอ
3. กินอาหารอ่อนปรุงสุกใหม่
แนะนำให้เจ้าตัวเล็กกินอาหารอ่อนปรุงสุกใหม่จะได้สบายท้อง ทั้งนี้ในบางครั้งเวลาเด็กเป็นหวัดอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลวร่วมด้วย การกินอาหารอ่อนที่ปรุงสุกใหม่ช่วยดูแลร่างกายได้
4. เลี่ยงอาหารกระตุ้นการไอ
พยายามหลีกเลี่ยงอาหารมัน ๆ อาหารกรอบแห้งแข็ง และอาหารหรือเครื่องดื่มเย็น เพราะกระตุ้นการไอในเด็กให้ไอมากขึ้นได้
5. ท่านอนช่วยลดคัดแน่นจมูก
หากเด็กมีอาการคัดแน่นจมูก ในเด็กเล็กอาจจัดให้นอนในท่าตะแคง ส่วนในเด็กโตแนะนำให้หนุนหมอนสูงขึ้น
6. งดกิจกรรมชวนไอ
กิจกรรมที่ทำแล้วเด็กจะมีอาการไอมากขึ้น ได้แก่ พูดตะโกน เสียงดัง ออกกำลังกาย เป็นต้น แนะนำให้งดจนกว่าจะหายดี
7. ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
เมื่อเด็กมีน้ำมูกมาก พ่อแม่ผู้ปกครองควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ (0.9% NSS) ถ้าล้างแล้วน้ำมูกยังมากอยู่อาจพิจารณาให้กินยาได้เท่าที่จำเป็น ควรระวังยาที่อาจทำให้น้ำมูกแห้งเกินไปหรือเสมหะเหนียวข้นขึ้นจนทำให้ไอมากขึ้นได้
8. ไอเล็กน้อยไม่ต้องใช้ยา
ในกรณีที่เด็กไอเล็กน้อยไม่แนะนำให้ใช้ยาระงับอาการไอ ควรให้เด็กดื่มน้ำบ่อย ๆ จิบน้ำอุ่น หากเสมหะเหนียวมากในเด็กโตสามารถให้ยาละลายเสมหะได้ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้ยาขยายหลอดลมเองเพื่อแก้ไอโดยไม่มีข้อบ่งชี้
9. ลดไข้เจ้าตัวเล็ก
เคล็ดลับการลดไข้ในเด็กคือ การให้เด็กดื่มน้ำให้มากพอจนปัสสาวะบ่อย ๆ เช็ดตัวเด็กเมื่อมีไข้ หากมีไข้สูงให้กินยาลดไข้ร่วมกับเช็ดตัว
10. ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะ
ไม่แนะนำให้พ่อแม่ผู้ปกครองใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียเอง เพราะหวัดเกิดจากเชื้อไวรัส นอกจากไม่ได้ประโยชน์ ยังอาจทำให้เด็กถ่ายเหลวและเสี่ยงต่อการดื้อยาปฏิชีวนะในอนาคต
11. พบแพทย์ทันทีถ้าไข้ไม่หาย
หากอาการไข้ในเด็กเกิดขึ้นติดต่อกันเกิน 3 – 4 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น ไอมากขึ้น เหนื่อยหอบ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
แม้หวัดในเด็กจะเกิดขึ้นได้บ่อยพ่อแม่ผู้ปกครองก็ไม่ควรนิ่งนอนใจถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรต้องพามาโรงพยาบาลทันทีและอย่าลืมหมั่นดูแลสุขภาพเจ้าตัวเล็กให้แข็งแรงอีกทั้งฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.bangkokhospital.com/