ก้าวสู่ปีที่ 53 สภาสตรีแห่งชาติฯ ประสานสี่ศาสนาเยียวยาหญิงม่าย
เนื่องในโอกาสก่อตั้ง ครบ 52 ปี สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดโครงการ “น้ำใจสตรีไทย เทิดไทพระบรมราชินีนาถ” ณ บ้านมนังคศิลา โดยจัดพิธีใส่บาตรอาหารแห้ง พระสงฆ์จำนวน 152 รูป พร้อมพิธีปฏิบัติธรรมรวมใจเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และร่วมส่งกำลังใจไปช่วยเหลือคณะสงฆ์ 266 วัด ในพื้นที่ไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้
อีกทั้งจัดกิจกรรมบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบความยากลำบากจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่องของประเทศในปีนี้ ด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันฟรี ตลอดจนให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อาทิ บริการจัดหางานจากกรมแรงงาน, บริการตัดผมฟรี, มอบยาสามัญประจำบ้านและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาต่ำกว่าทุน รวมทั้งแสดงความยินดีเชิดชูเกียรติและมอบรางวัลแก่นักกีฬาหญิงไทยที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ 2008 และกรรมการและสมาชิกของสภาสตรีแห่งชาติฯ ที่ได้รับเกียรติในโอกาสต่างๆ อาทิ รางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ, รางวัลอาสาสมัครดีเด่น ฯลฯ
นางเยาวเรศ ชินวัตร ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวว่า เปิดเผยถึง 4 ยุทธศาสตร์การดำเนินงานของสภาสตรีแห่งชาติฯ ที่ผ่านมาและยุทธศาสตร์ที่กำลังดำเนินงานว่า สภาสตรีแห่งชาติฯ เป็นแกนนำสนับสนุนการจัดตั้งชมรมกลุ่มแม่บ้านมุสลิมมะห์ในจ.ยะลา จ.ปัตตานีและจ.นราธิวาส โดยแต่งตั้งเป็นสมาชิกวิสามัญของสภาสตรีแห่งชาติฯเน้นกิจกรรมการสงเคราะห์ ส่งเสริมให้เกิดความรักและหวงแหนแผ่นดินไทย อาทิ การฝึกงานอาชีพในกลุ่มแม่บ้านมุสลิม การให้ทุนการศึกษาแก่เด็กเยาวชนมุสลิม ยุทธศาสตร์ที่ 2 การร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนจัดโครงการอบรมสัญจรแก่สตรีมุสลิมในภาคใต้ เน้นการสร้างความเป็นปึกแผ่นแก่ครอบครัว ยุติความรุนแรง เสริมสร้างสันติสุขแก่แผ่นดินภาคใต้ ส่วนยุทธศาสตร์ที่ 3 โครงการคาราวานสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกสำหรับสตรีและครอบครัวในภาคใต้ ถือเป็นการให้ความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ระบุถึงยุทธศาสตร์สุดท้ายว่า เป็นโครงการส่งน้ำใจให้ผู้อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสนองกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จัดโครงการถวายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่พระภิกษุสงฆ์ 266 วัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงเน้นการจัดสัมมนาและอบรมวิชาชีพ ควบคู่ไปกับการอบรมฟื้นฟูจิตใจและการช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ประสบภัย โดยเฉพาะกลุ่มหญิงม่าย
“เฉพาะในจ.ปัตตานีมีหญิงม่ายถึงกว่า 500 คน โดยสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับองค์กรสตรีใน 4 จังหวัด ทั้งสงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส เพื่อช่วยดูแลหญิงม่าย ในโครงการหญิงม่ายใจแกร่งและโครงการไทย-พุทธ-มุสลิม-คริสต์ เพื่อเป็นกำลังใจและช่วยเหลือครอบครัวที่สูญเสียสมาชิก โดยเฉพาะสตรี”
ข้อมูลจาก :
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=178903&NewsType=1&Template=1